ป้ายไฟวิ่งมีหลายแบบ เลือกอย่างไรดี?
ส่วนมากจะให้ความสำคัญกับเรื่องราคาเป็นอันดับแรก ไม่ผิดครับ ทุกคนอยากได้สินค้าถูกและดี ถามว่าสินค้าถูกและดีมีมั้ย? เราขอตอบว่า “สินค้าที่ดีย่อมมาพร้อมกับราคาที่เหมาะสม” ทั้งนี้ราคาสินค้าจะขึ้นอยู่ตามความต้องการและลักษณะการใช้งานของลูกค้าด้วย
- หลอดไฟ
ให้ถามเรื่องสเปคหลอดไฟจากผู้ขายก่อนเลย ถามว่าใช้ chip ของประเทศอะไร brand ไหน ถ้าเป็น Epistar, Nichia หรือ Cree คือของดีครับ เพราะผลิตที่ไต้หวัน เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา มาตรฐานสากล ใช้กันทั่วโลกครับ
- ความละเอียดของเม็ดไฟ
OLED แนะนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับป้ายไฟวิ่งในปัจจุบัน คือ P10 ซึ่งหมายถึงระยะห่างของเม็ดหลอดไฟ LED ทุก 10 มิลลิเมตร มี 1 เม็ดไฟ 1 ตารางเมตรมี 10,000 เม็ด ตัวเลข P ตรงนี้ยิ่งน้อยยิ่งดีเพราะจะยิ่งให้ความชัดมากขึ้นในการมองระยะใกล้ แต่งานป้ายไฟวิ่งทั่วไปใช้ P10 เพียงพอ
- ลักษณะเม็ดไฟ
แบ่งคร่าวๆ ได้ 2 ประเภท คือ DIP กับ SMD
- DIP คือลักษณะเม็ดไฟที่มี 1 สีต่อ 1 เม็ดไฟ ข้อดีคือความสว่างสูงมาก แต่มุมมองแคบกว่า คือมองเห็นทั้งจากด้านข้าง และด้านบน-ล่างได้องศาน้อยกว่า
- SMD คือเทคโนโลยีใหม่ที่จะมาแทน DIP ค่าความสว่างต่ำกว่า DIP เล็กน้อย แต่สว่างเพียงพอต่อป้ายไฟวิ่ง และจอโฆษณาในปัจจุบัน เม็ดไฟมีลักษณะเป็นเม็ดเดี่ยว คือมีหลอด 3 สี ในเม็ดไฟเดียว ภาพสวยกว่า มุมมองกว้างกว่าทั้งในแนวราบ และแนวตั้ง สามารถมองกว้างได้ถึง 140 องศา โรงงานในประเทศไทยยังไม่มีไลน์ผลิต SMD ทุกบริษัทในประเทศต้องนำเข้าอะไหล่มาประกอบ
- การใช้งาน
Indoor หรือ Outdoor? ลูกค้ามักจะเข้าใจว่างาน Outdoor ราคาสูงกว่า Indoor ความเป็นจริงไม่ใช่ งาน Indoor แพงกว่า เนื่องจากเป็นการมองจากระยะใกล้ ต้องการความคมชัด จึงต้องใช้ความละเอียดสูง หากวัดกันที่ส่วนแสดงภาพ งาน Indoor ราคาสูงกว่างาน Outdoor แน่นอน แต่ที่โดยรวมงาน Outdoor แพงกว่า เพราะมักจะต้องใช้จอที่ใหญ่กว่า และมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโครงสร้างและระบบสายไฟ/สายสัญญาณ